โคนัน ดอยล์ไม่ได้เขียนเฉพาะเชอร์ล็อค โฮล์มส๎
"แม้เซอร์อาร์เธ่อร์ โคนัน ดอยล์ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากเขียนนิยายเชอร์ล็อค โฮล์มส๎ ทุกวันนี้เขาก็โด่งดังอยู่ดี ถ้าเขาไม่ได้เขียนเชอร์ล็อค โฮล์มส๎ เขาก็อาจถูกลืมแม้จะประสบความสำเร็จทางด้านอื่นๆก็ตาม"
ในสมัยที่เขายังมีชีวิต หากได้ยินคำกล่าวในย่อหน้าที่แล้วโคนัน ดอยล์ย่อมรู้สึกสะเทือนใจ ตัวเขาเองกลับเห็นว่าผลงานซึ่งนำชื่อเสียงมาให้เขามากที่สุดนั้นเป็นอุปสรรคต่อการสร้างสรรค์วรรณกรรมโดยรวม
เพียงแค่ 6 ปีหลังจากเขาสร้างตัวละครนักสืบเอกขึ้นมา โคนัน ดอยล์ก็กำจัดทิ้งเพื่อจะได้มีเวลาให้กับงานที่จริงจังกว่า ทว่าแรงกดดันของหนี้สินและเสียงโวยวายของสาธารณชนก็ทำให้เขายินยอมนำเชอร์ล็อค โฮล์มส๎กลับมาในท้ายที่สุด เรื่องนี้ไม่เคยทำให้เขามีความสุข ดังจะเห็นได้จากครั้งหนึ่งที่เขาพูดว่า "ผมกินยาขนานนี้มากเกินขนาด….จนทุกวันนี้แค่ได้ยินชื่อก็ทำให้ผมรู้สึกผะอืดผะอม"
แน่นอน นิยายเชอร์ล็อค โฮล์มส๎เป็นผลงานของเขาที่ได้รับความนิยมสูงสุด แต่บุพคัมภีร์ที่ประกอบด้วยนวนิยาย 4 เรื่องและเรื่องสั้น 56 เรื่องเมื่อรวมกันแล้วนับเป็นปริมาณเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เศษๆของผลงานทั้งหมดที่โคนัน ดอลย์เขียนมาตลอดชีวิต
สำนักพิมพ์เคมบริดจ์ สกอล่าร์ส๎ได้จัดพิมพ์สรรพนิพนธ์ของอาร์เธ่อร์ โคนัน ดอยล์ออกมาจำนวน 56 เล่ม นับความหนารวมกันได้ประมาณ 11,000 หน้า และคิดเป็นน้ำหนักรวม 16 กิโลกรัม แน่นอน หนังสือสำรับใหญ่ไม่ได้บรรจุไว้เฉพาะผลงานที่สร้างความสำเร็จสูงสุดตลอดกาลให้ผู้เขียน--นั่นคือบุพคัมภีร์เชอร์ล็อค โฮล์มส๎
นอกจากจะรวมนิยายที่มีตัวละครต่อเนื่องชุดศาสตราจารย์แชลเลนเจ้อร์และชุดพันเอกเอเตียนน์ แยราด์ไว้แล้ว ยังมีบรรดานวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่องสำคัญๆที่ผู้เขียนเห็นว่าได้สร้างความสำเร็จยิ่งใหญ่ให้ตัวเองเช่นกัน อาทิเช่น The White Company ที่ตีพิมพ์เมื่อ ค.ศ.1891 โดยผู้เขียนกล่าวว่า "มันจะฉายให้เห็นจารีตนิยมแห่งชาติของเราอย่างกระจ่าง" และหรือ Sir Nigel ที่ตีพิมพ์ในอีก 15 ปีต่อมาโดยผู้เขียนเชื่อว่า "ในความเห็นส่วนตัวถือเป็นงานวรรณกรรมช่วงรุ่งโรจน์ของผม"
โคนัน ดอยล์ก็ไม่ต่างจากนักเขียนส่วนใหญ่ยุคนั้นที่ไม่ได้เขียนหนังสือเพียงเพราะเป็นงานเลี้ยงชีพ แต่เขียนเพราะจิตวิญญาณเรียกร้อง ทันทีที่ประจักษ์ว่าตัวเองมีพรสรรค์ เขาก็กลายเป็นตัวกลางถ่ายเทแรงบันดาลใจออกมาเป็นถ้อยพรรณนา
โคนัน ดอยล์ไม่เพียงสร้างผลงานอออกมาในจำนวนน่าอัศจรรย์ แต่เขายังโชคดีที่สามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากสิ่งที่เขารัก ในทศวรรษ 1920 เขาเป็นนักเขียนที่ได้รับคาตอบแทนสูงที่สุดในโลก ผลงานส่วนใหญ่ทยอยลงเป็นตอนๆในนิตยสารก่อน จากนั้นจึงตีพิมพ์เป็นรูปเล่ม นั่นทำให้เรื่องที่ได้รับความนิยมมากๆของเขาได้รับค่าตอบแทนอย่างน้อยสองต่อ
-----------
หนังสือมือสอง สภาพปานกลาง