แฮร์รี่ ซินแคลร์ ลูอิ๊ส( Harry Sinclair Lewis) เกิดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1885 ในโซ้คเซ็นเต้อร์ รัฐมินนีโซต้า หมู่บ้านที่มีประชากรไม่เกินหนึ่งพันคน และเป็นถิ่นที่มีคนต่างด้าว ชาวสวีดิ๊ช ฟินน์แลนด์ เยอรมัน อพยพเข้ามาถางที่ทำกินอยู่มาก
อายุหกขวบ เขาสูญเสียมารดา และบิดาผู้เป็นหมอบ้านนอกก็แต่งงานใหม่ในปีถัดมา ประสบการณ์วัยเด็กที่เติบโตในเมืองชนบทแถบมิดเว้สต์ (หมายถึงรัฐทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา 12 รัฐ ได้แก่ อิลลินอยส์, อินเดียน่า, ไอโอว่า, มิชิแกน, มินนีโซต้า, มิสซูรี่, นีบร๊าสก้า, ดาโกต้าเหนือและใต้, โอไฮโอ้ และวิสคอนซิ่น) คือวัตถุดิบอันมีค่าและทรงอิทธิพลยิ่งในงานเขียนของเขา
เมืองโกเฟ่อร์แพรรี่ ฉากหลักใน ถนนชีวิต (Main Street) แท้จริงก็คือ โซ้คเซ็นเต้อร์ บ้านเกิดของเขานั่นเอง
ในปี 1903 ลูอิ๊สเดินทางสู่ภาคตะวันออก (หมายถึงรัฐชายฝั่งตะวันออกที่มีความเจริญกว่า และเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงวอชิงตันดี.ซี. อาทิ นิวย้อร์ค, แม้สซาจูเส็ตต์, เดลาแวร์,คอนเน็คติกั๊ต ฯลฯ) เพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเยล เขาได้เริ่มต้นงานเขียนที่นี่กับนิตยสารวรรณกรรมของมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่พอใจกับชีวิตในรั้วมหา’ลัยนัก จึงพักการเรียนไว้ในปี 1906 และออกมาทำงานเป็นยามที่เฮลิค่อน ฮอลล์ ชุมชนยูโทเปียที่ก่อตั้งโดยอัพตั้น ซินแคลร์
เฮลิค่อนฮอลล์คือแดนจาริกแสวงบุญสำหรับนักคิดนักเขียนหัวก้าวหน้าในยุคนั้น อย่างเช่น ร้าล์ฟ วัลโด้ อีเมอร์สัน แต่อยู่ได้เพียงสองเดือนลูอิ๊สก็โบกมือลาจากที่นั่น เขารับจ้างทำงานแปลกๆสารพัดอยู่สองสามปีก่อนจะกลับเข้าเรียนจนจบปริญญาตรีในปี 1908
หลังเรียนจบ ลูอิ๊สเดินทางรอนแรมไปทั่วประเทศก่อนจะเริ่มลงหลักในกรีนิชวิลเลจ มหานครนิวย้อร์ค อันเป็นศูนย์กลางของนักเขียนและศิลปินกลุ่มอาว็องการ์ด และเริ่มต้นเขียนเรื่องสั้นและนวนิยาย ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์เล่มแรกในปี 1912 Hike and the Aeroplane เรื่องราวการผจญภัย วรรณกรรมสำหรับเยาวชน
ลูอิ๊สแต่งงานกับเกร๊ซ ลิฟวิงสตั้น เฮ็กเก้อร์ ในปี 1914 และย้ายไปอยู่ที่ลองไอส์แลนด์ ลูอิ๊สเป็นบรรณาธิการและผู้จัดการฝ่ายโฆษณาที่สำนักพิมพ์ George H.Doran และใช้เวลายามค่ำเขียนหนังสือ จนกระทั่งค่าตอบแทนจากเรื่องที่ได้รับการตีพิมพ์ใน Saturday Evening Post เริ่มเข้ามาอย่างเป็นกอบเป็นกำ เขาจึงตัดสินใจลาออกจากงานมาเป็นนักเขียนนวนิยายเต็มตัว
ถนนชีวิต ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1920 และขึ้นแท่นหนังสือขายดีด้วยยอดขายมากกว่า 250,000 เล่มภายในปีเดียว ส่งชื่อของลูอิ๊สขจรขจายไปทั่วโลกในฐานะนักเขียนนวนิยายแนวเสียดสีสังคม ลูอิ๊สไม่รอช้า รีบขะมักเขม้นเขียนนวนิยายต่ออีกหลายเล่ม ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีอย่างเช่น Babbitt (1922) เรื่องราวของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการแสวงหาความร่ำรวยแต่ไร้ความสุขในชีวิต
Arrowsmith (1925) เล่าเรื่องนายแพทย์และนักวิจัยผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์ Elmer Gantry (1927) กล่าวถึงนักแสวงหาผลประโยชน์ในคราบนักบวช นวนิยายเรื่องนี้ทำให้โบสถ์หลายต่อหลายแห่งลุกขึ้นมากล่าวประณามจนถูกสั่งแบนในหลายรัฐของอเมริกา และล่วงมาอีกหลายสิบปีจึงถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ (ปี 1960 นำแสดงโดยเบิร์ต แลนค้าสเต้อร์)
ในปี 1926 ลูอิ๊สได้รับรางวัลพูลิตเซ่อร์จากนวนิยาย Arrowsmith แต่เขาปฏิเสธไม่รับโดยให้เหตุผลว่านวนิยายของเขามิได้ “จรรโลงสังคม” ตามมาตรฐานของคณะกรรมการพิจารณารางวัล
หลังหย่าขาดจากเกร๊ซในปี 1928 ลูอิ๊สแต่งงานใหม่กับนักหนังสือพิมพ์ชื่อก้องโลก โดโรธี ธอมป์สัน (Dorothy Thompson) ในปีเดียวกันนั้นเอง หลังจากนั้นเขาใช้เวลาส่วนใหญ่เดินทางท่องเที่ยวไปมาระหว่างอเมริกากับยุโรป และในปี 1930 เขาก็กลายเป็นนักเขียนอเมริกันคนแรกที่พิชิตรางวัลโนเบล “ด้วยศิลปะการพรรณนาได้อย่างเห็นภาพและเปี่ยมชีวิตชีวา และความสามารถในการสร้างสรรค์แบบฉบับใหม่ๆของตัวละครได้อย่างหลักแหลมและมีอารมณ์ขัน”
ทว่าหลังจากนั้น ชื่อเสียงและความสำเร็จของลูอิ๊สเริ่มตกต่ำลง หลังการตีพิมพ์ The Prodigal Parents (1938) เขาก็ไม่สามารถเรียกศรัทธาจากผู้อ่านในวงกว้างได้อีกเหมือนวันเก่าก่อน
เขาหย่ากับโดโรธีในปี 1942 และใช้ชีวิตบั้นปลายในยุโรปอย่างโดดเดี่ยวและทุกข์ทรมานจากโรคพิษสุราเรื้อรัง
วันที่ 10 มกราคม ค.ศ.1951 แฮร์รี่ ซินแคลร์ ลูอิ๊ส เสียชีวิตเนื่องจากหัวใจวาย ขณะพำนักอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี สิริอายุ 65 ปี ศพของเขาถูกนำกลับมาฝังไว้ที่บ้านเกิดของเขา--โซ้คเซ็นเต้อร์ มินนีโซต้า
*****
คลิก จองซื้อนวนิยาย ถนนชีวิต
วิดีโอ 6 นาที แนะนำประวัติสังเขป ซินแคลร์ ลูอิ๊ส